น่ากลัวจัง! คำสารภาพบาปของผู้หญิงที่เคย “ทำแท้ง” ถึง 6 ครั้ง

โพสโดย : admin | วันที่ : 19 June 2015
หมวดหมู่ : เรื่องน่าอ่าน

น่ากลัวจัง! คำสารภาพบาปของผู้หญิงที่เคย “ทำแท้ง” ถึง 6 ครั้ง

แท้ง

หลายคนอาจเคยได้ยินข่าวการทำแท้งของวัยรุ่นมาบ้าง แต่อาจไม่เคยคิดว่า วัยรุ่นเหล่านั้นอาจมีชีวิตไม่ต่างจากคุณเลย เพียงแต่เขาหักห้ามใจตัวเองได้ไม่ดีเท่านั้น

เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน เป็นคำสารภาพของผู้หญิงอายุยี่สิบกว่า ที่เคยผ่านการทำแท้งมามากถึง 6 ครั้ง! เธอกล้านำเรื่องราวของตัวเองมาเผยแพร่ในพันทิป เพื่อเป็นอุทธาหรณ์สอนใจคนอื่น เชิญรับชมได้เลยค่ะ

สวัสดีค่ะดิฉันได้สมัครสมาชิกใหม่เพื่อขอเล่าประสบการณ์ของดิฉันเองที่เกิด ขึ้นมาร่วม 10 ปีเผื่อจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่กำลังคิดที่จะทำบาปและผลที่ตามมา  ดิฉัน ตัดสินใจดีแล้วกับการตั้งกระทู้นี้และยอมรับในสิ่งที่อาจตามมา

จุดเริ่มต้นเมื่อ 10ปีที่แล้วตอนนั้นเราอายุย่าง 19 ปี พื้นฐานครอบไม่ค่อยอบอุ่นเท่าใดนัก มีแม่ที่ค่อนข้างเข้มงวดชอบดุด่าว่ากล่าว ครอบครัวมีปัญหาบ่อยๆ  ก่อนเข้ามหาลัยนั้นเราไม่ค่อยได้ออกไปสัมผัสโลกภาย นอกเลย เลิกเรียนเข้าบ้านจนเป็นนศ.ปีที่ 1 ของม.แห่งหนึ่งในภาคเหนือ ชีวิตพลิกผันพ่อกับแม่แยกทางกันบางวันเราก็อยู่บ้านพ่อบ้างบ้านแม่บ้าง และการเรียนในมหาลัยนั้นทำให้เรามีอิสระมากขึ้นได้ทำอะไรตามใจตัวเองอย่าง ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สมัยนั้นวิทยุชุมชนกำลังมาแรง เราได้เป็นดีเจสมัครเล่นที่วิทยุชุมชนแห่งหนึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้ เราเจอผู้ชายคนหนึ่งที่ขอจำและเกลียดจนวันตาย

ขอสมมุติว่าชื่อหนึ่ง พี่หนึ่งอายุมากกว่าเรา ราวๆ 5-6ปี เริ่มแรกจากการที่พี่หนึ่งโทรเข้ามาในรายการทุกวันๆ เหมือนแฟนรายการหลังๆมาพี่หนึ่งเริ่มมาเยี่ยมที่สถานีซื้อขนมมาให้บ้าง มาคุยด้วยบ้างจนเริ่มคบกัน เค้าก็ชวนเราไปบ้านเค้าซึ่งบ้านนั้นเป็นบ้านเช่าที่พี่หนึ่งแบ่งเช่ากับ เพื่อนอีก 2 ห้อง แรกๆนั้นก็ไม่มีอะไรค่ะนั่งฟังเพลงบ้าง ช่วยกันทำอาหาร ตั้งวงกินเหล้าแต่เราไม่กินนะตอนนั้นยังกินไม่เป็นไม่คิดจะลองซะด้วย ซ้ำ  พอไปบ่อยๆเข้าสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้มันก็เกิดเมื่อมีโอกาสอยู่กันสอง ต่อสอง โดยที่ไม่ได้มีการป้องกัน มีครั้งแรกก็มีครั้งที่สองและครั้งต่อๆไป เวลาผ่านไปเดือนแรก เรายังไม่เอะใจเพราะคิดว่าคงไม่ท้องง่ายขนาดนั้นช่าง โง่เหลือเกิน ช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน พอเดือนที่สองประจำเดือนก็ยังไม่มา เริ่มกังวลใจเรื่องท้องยังไม่พอต้องมาเจอกับแฟนเก่าของพี่หนึ่ง เค้าเปิดประตูห้องตอนเราสองคนอยู่ด้วยกันในห้องพาเพื่อนมาด้วยหนึ่งคน พี่หนึ่งบอกให้เรากลับบ้านไปก่อน หลังจากวันนั้นพี่หนึ่งก็เปลี่ยนไปค่ะเริ่มหงุดหงิดใส่เราบ้าง ไม่อยากให้มาหาบ้าง เดินหนีไม่ยอมคุยบ้าง จนแฟนเก่าพี่หนึ่งโทรมาบอกเราว่าเค้ากลับมาคืนดีกันแล้ว เค้าคบกันมานานแล้วเราเป็นแค่เด็กที่ถูกเค้าหลอกเอาแค่นั้นแหละเค้าห้ามเรา ไปยุ่งกับพี่หนึ่งอีก เราเครียดมากเริ่มกลัวว่าจะท้องจึงซื้อแผ่นตรวจฉี่มาตรวจ เราท้องค่ะตอนนั้นเราไม่มีทางออกเลย ไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใครเราโทรไปหาพี่หนึ่งบอกว่าเราท้อง เค้าบอกว่าไม่ใช่ลูกเค้าหรอกทั้งๆที่เค้าเป็นผู้ชายคนแรกของเรา  เราปล่อย ให้เวลาล่วงเลยจนเข้าเดือนที่ 3 ยังหาทางออกไม่ได้กินยาสตรีเป็นขวดๆ ร้องไห้จนตาบวมทุกวันจนแม่เราเห็นยาสตรีในห้องนอนจึงมาถามว่าประจำเดือนมา รึยัง คาดคั้นมากๆจนเรายอมรับว่าท้อง  แม่ที่เข้มงวดชอบดุด่าว่ากล่าวมาตลอดไม่มี แม้แต่คำด่า แม่เราร้องไห้ค่ะร้องไห้ไปกับเราปลอบเราให้หายกังวลใจ วันต่อมาแม่ปรึกษาป้าของเรา ป้าเอายาผงสมุนไพรมาให้กินก่อนกินแม่เราร้องไห้อีกแล้วแม่ถามมาคำหนึ่งที่ เราไม่มีวันลืม แม่ถามว่ารักแม่มั้ย เรากอดกันร้องไห้ค่ะ แต่การกินสมุนไพรนั้นก็ไม่ช่วยอะไรเลย ป้าเราจึงพาเราไปโรงบาลแห่งหนึ่งให้แม่เซ็นยินยอม จบลงด้วยการทำแท้ง นั้นเป็นการทำแท้งครั้งแรกของเราที่เสียเลือดและน้ำตาไปมากมาย มากจนไม่มีวันลืม มากพอๆกับความแค้นต่อผู้ชายคนนั้น

หลังจากนั้นเราก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติแต่เลิกเป็นดีเจสมัครเล่นแล้ว หลังจากนั้นไม่กี่เดือนเราได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่งเป็นเพื่อนของแฟนเพื่อน เราสมมุติให้ชื่อว่าพี่สองคนนี้เกิดปีเดียวกันค่ะแก่กว่าไม่กี่เดือนแต่เรา เรียกเค้าว่าพี่มาตลอดเค้ามีความเป็นผู้ใหญ่กว่าเรามาก  พี่สองเริ่มจีบเรา ก่อนค่ะ พี่สองฐานะยากจนทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยหาเงินใช้เอง อาศัยอยู่กับแม่ในห้องพักพนักงานร้านอาหาร  เค้ารักและตามใจเรามากๆ เป็นคนขี้ใจอ่อน ขยันเรียน เราคบกันอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ค่ะเป็นคนแรกที่พาเข้าบ้าน เราไม่เคยเล่าเรื่องที่เราเคยทำแท้งให้เค้าฟังนะคะ ปีแรกที่คบกันก็รักกันมากตามปกติของคู่รักทั่วๆไป มีการป้องกันทุกครั้งเวลามีเพศสัมพันธ์ เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อปีที่สอง คนที่เปลี่ยนไปคือเราเอง เรานอกใจพี่สองค่ะโดยที่เค้ายังไม่รู้ เราคบซ้อนกับผู้ชายอีกคนทั้งๆที่พี่สองดีกับเรามากแต่ตอนนั้นเราคิดว่าไม่ เป็นไรหรอก ลองคบคนอื่นดูมันดูน่าตื่นเต้นมีอะไรที่เร้าใจมากกว่า สมมุติให้คนใหม่ชื่อเอ  เรารู้จักเอจากโปรแกรม msn. จากนั้นเราก็นัดเจอกันค่ะ เรามีอะไรกันโดยที่ครั้งแรกเราไม่ได้ป้องกัน   เหมือนเดิมค่ะประสบการณ์ครั้งแรกมันไม่ได้ช่วยให้เราฉลาดขึ้น  เรามี อะไรกับผู้ชาย 2 คนคบซ้อนอยู่แบบนั้นจนรู้ว่าท้อง เรามั่นใจว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเอ เราเอาเรื่องนี้ไปบอกเอ เค้ารับรู้แต่ไม่ดูทุกข์ร้อนใดๆ บอกแค่ว่าไม่พร้อมให้เอาออก เหมือนให้เราหาทางออกเอง แน่นอนคราวนี้เราคงไม่มีหน้ากลับไปบอกแม่เราอีกแล้วค่ะ. แม่ต้องไม่รู้เรื่องนี้ คิดไม่นานหรอกค่ะพี่สองที่แสนดีของเรานั่นเอง  โดยที่เค้าคิดว่าเราท้องกับ เค้า ดูเค้าทุกข์ใจมากคิดหาทางออกปรึกษาเพื่อนๆของเค้าผิดกับเอลิบลับ จนวันนั้นพี่สองได้ยาต้วหนึ่งมาจากเพื่อนของเค้าค่ะมันคือ ยาสอดทำแท้ง

เราทำแท้งครั้งที่ 2 ตอนอายุครรภ์ราวๆ เดือนกว่าโดยการใช้ยาสอดเข้าไปในช่องคลอดจะขอเล่าไว้นะคะไม่ได้แนะนำให้ใช้ เดี๋ยวจะเป็นการชี้โพรงให้กระรอกรึป่าวเพราะเราใช้ยานี่อีกหลายครั้งต่อ จากนี้เลย ยานี่ไม่มีขายตามร้านขายยาแต่เป็นที่รู้กันในหมู่วัยรุ่นนะคะแหล่งซื้อขาย เนี่ย

พี่สองเป็นคนสอดยาทำแท้งให้เราโดยที่เค้าคิดว่าเราท้องกับเค้า นี่เป็นอีกความลับที่เรารู้สึกผิดจนทุกวันนี้ หลังจากสอดยาไปไม่กี่ชม.ประจำเดือนเราก็มาค่ะ มันออกมาอย่างง่ายดายแทบไม่เจ็บปวดอะไรเลย ยิ่งไม่มีความเจ็บปวดความรู้สึกผิดต่อเด็กในท้องก็น้อยค่ะตอนนั้นเราไม่ รู้จักกลัวบาปที่ทำกับลูกเราเลย ครั้งนี้ได้พี่สองแก้ปัญหาให้เราค่ะ

จากนั้นเราก็ไม่ได้เลิกกับเอนะคะยังคบซ้อนมาเรื่อยๆ โดยที่ผู้ชายทั้งสองคนไม่รู้เลย นับวันเราเริ่มเบื่อหน่ายพี่สองมากขึ้น แต่เราก็ยังรับสิ่งดีๆที่เค้าทำให้พี่สองซักแม้กระทั่งชั้นในของเรา วันไหนที่เราต้องการใช้เงินเราก็ให้พี่สองไปหาไปหยิบยืมคนอื่นมาให้เรา นั่งปลอกทองแดงอดหลับอดนอนเพื่อเอาไปขายหาเงินให้เราก็บ่อย ผิดกับเอที่เรารู้สึกรักเอมากขึ้นมากกว่าพี่สองด้วยซ้ำไปทั้งๆที่เค้าไม่ดี กับเราเลย มีลงไม้ลงมือกับเรา นอกใจก็เคยเราคบซ้อนอยู่แบบนั้น 2 ปีก็จบลงโดยเอทิ้งเราไป. เหตุผลคือเอเรียนจบแล้วต้องกลับบ้าน เค้ามาบอกเราวันที่ขนของออกหอพักนั่นแหละจบสิ้นกับคนที่เราท้องคนที่ 2

หลังจากที่เราเลิกกับเอไม่ถึงเดือนเราสมัครงานพาร์ทไทม์ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ค่ะทำตอนเย็นหลังเลิกเรียน  ด้วยความที่เราอกหักจากเอเราจึงอยากคุยกับคน อื่นเพื่อให้ลืมเอให้ได้. เราคุยกับคนใหม่ที่รู้จักกันที่ร้านนี้ให้ชื่อว่าบีนะคะ บีนี่เราแทบไม่มีความทรงจำอะไรเลย ไม่มีความรักที่เราคบด้วยตอนนั้นแค่อยากคบเพื่อลืมเอแค่นั้นแหละ  พี่สองก็ ยังไม่ไปไหนนะคะคนนี้อยู่ในชีวิตเราอีกนานเลย จากนั้นเราก็ท้องอีกค่ะทั้งๆที่เรากินยาคุมฉุกเฉินแล้ว ครั้งนี้เราเจ็บใจตัวเองมากที่กินแล้วยังท้องอีก ขอเตือนเลยนะคะยาคุมฉุกเฉินนี่กินแล้วอย่าคิดว่าจะไม่ท้องมันไม่ได้ช่วยอะไร เลย  คราวนี้เราบอกบีค่ะให้เค้าหายามาให้ เราไม่กล้าโยนให้พี่สองรับบาปอีกแล้ว เรารู้แหล่งซื้อยามาจากบีนี่แหละ. หลังจากทำแท้งครั้งที่ 3 เราก็ไม่ติดต่อบีอีกเลยจบสิ้นการท้องครั้งที่. 3 ที่ไม่ได้เกิดจากความรัก

ยาสอดใช่ว่าจะปลอดภัย
หลังจากเราแท้งครั้งที่ 3 แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งก่อนค่ะคือเลือดเราออกมาเยอะมาก มีก้อนเลือดก้อนเท่าฝ่ามือหลุดออกมาด้วย แต่เลือดก็ยังออกมาเรื่อยๆ มา3 วันหายไป. 2 วันกลับมามีอีกวนไปมาแบบนั้นเดือนกว่าๆ แต่เราก็ไม่กล้าไปหาหมอนะคะตอนนั้นน้ำหนักลงมาก ไม่ค่อยมีแรงตัวซีดเชียวอาจเพราะเสียเลือดเยอะจนวันหนึ่งมันหายไปเอง มาคิดดูแล้วตอนนั้นเราอาจจะโชคดีอยู่บ้างที่ไม่ติดเชื้อหรือตกเลือดตาย

เราเองก็เคยมีเพื่อนที่ใช้ยาพวกนี้เราถึงขั้นต้องเข้าโรงบาลก็หลายคน บางคนท้องโตแล้วก็ยังทำซึ่งมันอันตรายมากๆ.  ส่วนผลจากการทำแท้งนั้นมีแน่ นอนค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าเราจะอยู่ดีมีสุข  เราได้รับผลกรรมจากการทำแท้งแบบไม่ต้อง รอตกนรกหรือรอชาติหน้าเลย

ร้านที่เราทำพาร์ทไทม์เป็นร้านเหล้าค่ะอยู่ไม่ไกลจากมหาลัย จากเด็กสาวที่ไม่เคยกินเหล้าก็เริ่มกิน จากที่ไม่เคยเที่ยวกลางคืนก็เที่ยวบอกพ่อว่าไปนอนบ้านแม่แต่จริงๆแล้วไป เที่ยวดึกๆดื่นเมามาก็ไปนอนหอเพื่อน โกหกแม่ว่าไปอยู่บ้านพ่อแต่ที่จริงอยู่ร้านเหล้าติดเพื่อนมากไปไหนไปกัน ช่วงนี้เราเริ่มห่างๆพี่สองแต่ยังไม่เลิกกันนะคะ เค้าก็ตั้งใจเรียนมากผิดกับเราที่เริ่มมีปัญหาเวลาเรียนไม่พอ บ้างวันก็ไม่ไปเรียนใส่ชุดนศ.ออกจากบ้านแต่ไปขลุกอยู่หอเพื่อนโดยที่พ่อแม่ ไม่เคยสงสัยเลย เป็นอยู่แบบนี้จนในที่สุดก็โดนรีไทร์ค่ะ  เรายังไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ค่ะตอน นั้น เราเริ่มกลัวว่าจะถูกจับได้โกหกบ่อยเข้าๆ เราก็ไม่อยากอยู่บ้านจึงขอออกมาอยู่หอพักใกล้มหาลัย ที่บ้านก็ไม่ว่าอะไร นั่นแหละค่ะยิ่งไปกันใหญ่ ชีวิตตอนนั้นอิสระสุดๆ  ขอเตือนพ่อแม่ที่คิดจะปล่อยให้ลูกอยู่หอพักนะคะถ้า ไม่จำเป็นจริงๆ ถ้าลูกคุณยังดูแลตัวเองไม่ได้ ขาดความมีวินัย ความยับยั้งชั่งใจ

หลังจากอยู่หอพักเราก็คบผู้ชายอีกคนสมมุติชื่อซี  จริงๆแล้วกับซีเราเคยเจอ กันตอนเรียนมอปลาย เจอกันครั้งเดียวเค้าเป็นเพื่อนของเพื่อนเราที่บ้านอยู่ใกล้กัน จากนั้นเราก็คุยโทรศัพท์กันอย่างเดียวเหมือนจะจีบแต่ก็ไม่เชิง คุยกันทั้งทางmsn. ทางโทรศัพท์อยู่หลายปี เคยเล่าเรื่องแฟนให้เค้าฟังบ้าง จนตอนหลังเรามาเจอกันและตกลงคบกันค่ะ. ซีเด็กวิศวะม.ดัง นิสัยก็ดีเด็กเรียน เป็นลูกคนเดียวค่อนข้างเป็นลูกเหง พอมาคบกันจริงๆมันไม่เหมือนที่คุยกันทางโทรศัพท์ หลายๆอย่างเราเข้ากันไม่ได้ ความผูกพันที่เคยคุยกันมาจบลงด้วยการพบเจอและคบกันด้วยเวลาไม่ถึงครึ่งปี เราสารภาพกับเค้าว่าเรามีแฟนอยู่แล้วก็คือพี่สองนั่นเอง ตอนนั้นเรากับพี่สองก็เจอกันเกือบทุกวันแต่เราไม่ยอมมีอะไรกับเค้านานแล้ว

พอเราเลิกกับซีเราก็เที่ยวเหมือนเดิมค่ะ เที่ยวกลางคืนก็มีบ้างคนที่มาขายขนมจีบ มาขอเบอร์ เรื่องเลวร้ายต่อจากนั้นคือเรามีอะไรแบบ one night stand กับผู้ชาย2 คนในเวลาไล่เลี่ยกัน อ่านถึงตรงนี้หลายคนคงนึกรังเกียจเราใช่มั้ยคะ ขนาดเรายังรังเกียจขยะแขยงเวลานึกถึงเลยค่ะ มันเป็นเรื่องที่เราอยากลืมๆไปให้หมด จากนั้นเราสัญญากับตัวเองว่าจะไม่กินจนเมาแล้วใจง่ายกับใครอีก เหมือนสวรรค์ไม่ยอมให้คนชั่วกลับใจเมื่อประจำเดือนเราขาดไปอีกแล้ว ทั้งๆที่ผู้ชายสองคนนั้นใส่ถุงและซีนั่นหลั่งข้างนอก

คำถามคือเราท้องกับใคร เราได้แต่ถามตัวเองและครั้งนี้เราต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

เราทำแท้งครั้งที่ 4 ด้วยตัวเองค่ะ ไปร้านขายยาแห่งหนึ่งที่เป็นที่รู้กันในหมู่วัยรุ่น สภาพร้านเก่ามืดคนขายเป็นคนแก่ผมขาวทั้งหัวแล้ว เรารวบรวมความกล้าเข้าไปถามซื้อ ยาสอดทำแท้งยังไม่ทันเดินออกจากร้านมีวัยรุ่นใส่ชุดนักเรียนม.ปลายเดินเข้า ไปถามซื้อเหมือนกัน ถามต่อหน้าเรานั่นแหละ เป็นเราคงไม่กล้าถามซื้อต่อหน้าคนอื่น ถึงจะทำเลวมาเยอะแต่เรายังหน้าบางอยู่เยอะ

คืนนั้นเราสอดยาด้วยความกลัวเพราะเราต้องทำเอง ต้องอยู่คนเดียว เริ่มกลัวว่าถ้าตกเลือดมาใครจะรู้รึป่าว กลัวนู้นนี่ไปหมดก่อนจะตัดสินใจสอดยานรกนั่นไป ลักษณะยาสอดนี่แปลกไปจากยาอื่นๆนะคะมันมีลักษณะเป็นหกเหลี่ยมเม็ดเล็กๆ จากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของมันทำงาน
ครั้งนี้เป็นครั้งที่เราทำอย่างเลือดเย็นที่สุด เราอยากเอาออกมากเราคิดว่าทำไมเราต้องท้องด้วย ท้องกับใครก็ไม่รู้พอรู้ว่าท้องเราก็รีบจัดการทันทีไม่คิดจะเก็บไว้

หลังจากทำแท้งครั้งที่ 4 เราเคยสัญญากับตัวเองว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย พอแล้วกับชีวิตเหลวแหลกไร้จุดหมาย แต่ยังคงไม่เข็ดหลาบกับความรักที่ผ่านเข้ามาถึงแม้จะมีพี่สองอยู่ก็ตาม เราคิดว่าเค้าคือของตายความรับผิดชอบของเค้ามันมัดเค้าไว้กับเรา

ในระยะเวลาไม่กี่ปี เราทำแท้งถึง 4 ครั้งกับผู้ชายไม่ซ้ำกัน ตอนนั้นเราไม่ได้ตระหนักกลัวถึงบาปกรรมเลยไม่เคยทำบุญให้ลูกที่เราทำแท้งไป เลย เคยมีครั้งเดียวที่พี่สองพาไปถวายสังฆทานให้เด็กที่เค้าคิดว่าเป็นลูกเค้า ค่ะ

เวลาผ่านไปเพื่อนๆที่กินเที่ยวด้วยกันต่างเรียนจบ บางคนก็เรียนไม่จบเหมือนเรา เรายังคงอยู่หอพักเหมือนเดิมและยังเล่น msn. จนได้มาเจอเอกผู้ชายคนถัดมาที่เข้ามาเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างในชีวิตของเรา (จำได้ว่าพอเราคบเอกหลังจากนั้นเราก็ไม่เล่น msn. อีกเลยต่อมาจึงมีhi5 และเฟซบุ๊ค)
เอกมีอะไรที่คล้ายๆกันกับเรา มีปัญหาชีวิต เรียนไม่จบหลายๆอย่างเราเอามานั่งปรับทุกข์เล่าสู่กันฟังมันทำให้เราเข้าอก เข้าใจกัน มันเป็นช่วงเวลาที่เราต้องเลือก เราเบื่อการคบซ้อนเราตัดสินใจเลิกกับพี่สอง บอกเค้าว่าเรามีคนใหม่เรานัดให้เค้ามาเจอกันเพราะพี่สองไม่ยอมเลิก เค้าร้องไห้ขอร้องเรายังไงเราจำได้ดี หลังจากนั้นเรากับพี่สองเปลี่ยนสถานะจากแฟนเป็นพี่น้องกันเค้ายังคงวนเวียน อยู่แถวๆนี้แหละไม่ไปไหน โทรหาเป็นห่วงเป็นใยยังบอกรัก ไม่มีคนใหม่เพราะเราไม่ให้มี เรากั๊กเค้าไว้จะให้กลับไปคบเราก็ไม่ไปแต่จะให้เค้าไปมีคนใหม่เรายอมไม่ได้

กับเอกเรายังเอาแต่ใจเหมือนอยู่กับพี่สองและเค้าก็ยอมรับได้   เราไปไหนมา ไหนด้วยกันแทบจะตลอดเวลา เค้าให้เราช่วยเค้าทำมาค้าขายจนเราไม่ต้องขอเงินที่บ้านอีก เอกเป็นผู้ชายคนที่ 2 ที่เราพาไปให้ที่บ้านรู้จักและเค้าก็พาเราไปให้พ่อแม่เค้ารู้จัก เราสองคนแยกออกมาอยู่กินด้วยกันช่วยกันหาเงิน เที่ยวด้วยกัน เราคิดถึงอนาคตร่วมกันตอนนั้นเราโตขึ้นมีความคิดมากขึ้น ไม่มีแล้วความรักแบบหวือหวา ความตื่นเต้นในเรื่องรักๆใคร่ๆ มีทะเลาะกันเลิกกันแล้วก็ดีกัน มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เราทะเลาะกันแล้วเราเรียกพี่สองมาอยู่กับเราที่ห้อง แต่ไม่มีอะไรกันเราเรียกเค้ามาอยู่เป็นเพื่อนเราแต่เค้าไม่ได้คิดแบบนั้น เค้ามาแบบมีความหวังและร้องไห้กลับไป หลังจากนั้นเราติดต่อกับพี่สองน้อยลง

กับเอกนั้นเราคุมกำเนิดแบบกินยาคุมแบบแผงค่ะ กินอยู่ปีกว่าเราก็กินบ้างลืมกินบ้างคิดว่าวันนี้ไม่กินพรุ่งนี้ค่อยกินทบ กันก็ได้ด้วยความชะล่าใจ มันทำให้เราท้องอีกครั้ง ครั้งนี้เราสองคนปรึกษากันเอกบอกว่าแล้วแต่เราจะเก็บไว้เค้าก็ไม่มี ปัญหา  ทั้งๆที่ตอนนั้นเราพร้อมที่จะเลี้ยงดูเค้าแต่เรายังเลือก เลือกที่จะทำแท้ง เหตุผลแค่เพราะเรายังไม่อยากมีลูกเราอยากอยู่กับเค้าสองคนช่วยกันหาเงิน ยังอยากเที่ยวนั่นนี่นู้นอายุที่มากขึ้นไม่ได้ช่วยให้เราเป็นคนดีขึ้น เลย   เราตัดสินใจทำแท้งครั้งที่ 5 แต่กว่าจะตัดสินใจทำได้เราปล่อยให้เวลาล่วงเลยถึง 3 เดือน

ตอนนั้นเราคิดว่า 3 เดือนยังเล็กอยู่ไม่น่าจะเป็นอะไร เราคิดผิดค่ะเด็กในท้อง 3 เดือนหลุดออกมาเป็นตัว เด็กตัวเล็กแดงๆ นั่นเป็นครั้งแรกที่เราเห็นลูกที่เราทำแท้งค่ะ  ทั้ง 5 ครั้งมีครั้งนี้แหละที่เห็นเป็นตัวๆเลย เอกค่อนข้างช็อคกับภาพที่เห็น เราเห็นเค้าร้องไห้ห่อเด็กใส่ผ้าขึ้นมากอดเบาๆ พอเราเห็นเด็กเป็นตัวแล้วนั่นแหละค่ะความสงสารความรู้สึกผิดมันประดังเข้ามา ความรู้สึกเป็นแม่อันน้อยนิดของเราเริ่มทำงาน เรานำร่างเล็กๆที่ยังไม่เห็นเพศชัดว่าหญิงหรือชายห่อผ้าแล้วขับรถเอาไปลอย แม่น้ำค่ะ วิธีนี้เราเคยอ่านในเน็ตมาความกลัวในบาปเริ่มมี

หลังจากที่แท้งครั้งที่  5 เราสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำอีกเรารู้สึกแย่ รู้สึกแย่กับชีวิตมากๆ ทำอะไรก็หดหู่กับเอกคนที่เราคิดว่าเราจะอยู่กับคนนี้แหละ เราเบื่อการเลิกลาแต่ก็มีเหตุให้เราเลิกกันไปหลังจากเราทำแท้งประมาณ 1 ปี ทั้งๆที่เราสองคนเคยคุยกันไว้ว่าอีกซักปีสองปีเราค่อยให้เค้ามาเกิดเป็นลูก เราใหม่  การทำแท้งครั้งนั้นทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นแม่หรืออาจจะเป็น เพราะอายุที่มากขึ้น

เราเลิกกันราวๆปี 54 หลังจากนั้นเราก็อยู่คนเดียวเป็นโสดอยู่พักใหญ่ เหนื่อยกับชีวิตเหลือที่ผ่านมามีความรักกับใครหลายคนล้วนไม่สมหวังอยู่คน เดียวตั้งใจทำมาหากิน หลังจากเลิกกันเรามีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งเอาไปลงทุนทำธุรกิจเล็กๆ จากที่เคยช่วยกันทำสองคนก็เหลือตัวคนเดียว
หันไปมองคนรอบๆตัวเรา เพื่อนๆต่างมีหน้าที่การงานที่ดีได้ทำงานตามสายงานที่เรียนมา บางคนแต่งงานมีครอบครัวที่อบอุ่นมีลูกตัวเล็กๆ ช่างน่ารักเหลือเกิน จากคนที่ไม่รักเด็กตอนนี้เราอ่อนไหวมากเวลาเห็นเด็กตัวเล็กๆเดินเต๊าะแตะ บางครั้งก็ร้องไห้คนเดียวคิดว่าถ้าเราเก็บไว้ป่านนี้เค้าจะตัวเท่านี้ เท่านี้ เราเชื่อว่าคนที่เคยทำแท้งคงเคยมีซักเสี้ยวหนึ่งแหละที่นึกถึงแบบนี้

พี่สองได้ทำงานรัฐวิสาหกิจคนละส่วนของประเทศ แรกๆนั้นก็มีคิดต่อหาบ้าง ห่วงใยเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเราสัมผัสได้ว่าความรักที่เค้ามีให้มันเหลือแค่ ความผูกพันแค่นั้นแหละ หลังจากไม่เจอกันอีกเลยสายสุดท้ายที่ได้รับเค้าบอกกับเราว่าเค้ากำลังจะแต่ง งาน เค้าโทรมาบอกเราต่อหน้าแฟนเค้าเพื่อให้ผู้หญิงคนนั้นสบายใจ เรารู้สึกใจหาย เรารู้จักนิสัยเค้าดีเค้ายอมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้คนรักเค้าสบายทั้งกายทั้ง ใจเราเสียเค้าไปแน่นอนแล้ว ตอนนั้นเราก็ตอบยินดีอวยพรให้พวกเค้าไป เค้าบล็อคเฟซเราลบเพื่อนที่มีร่วมกันส่วนมากจะเป็นเพื่อนเรามากกว่า เราเคยเอาเฟซเพื่อนเราเข้าไปดูรูปพรีเวดดิ้ง เรารู้สึกว่าความจริงมันความเป็นเราที่อยู่ข้างๆเค้า คนที่เค้ากอดคนนั้นเคยเป็นเราผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกคนนั้นเค้าเคยรักเรามาก แต่ตอนนี้เค้าเป็นของคนอื่นแล้วและเราก็เชื่อว่าพี่สองคงรักเธอเหมือนที่เคย รักเรานั่นแหละ

ปี55 เราในวัย 27 ปี แต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งหลังจากที่เราคบกันได้ไม่ถึงปี  สมมุติชื่อต้น ต้นเป็นคนค่อนข้างจริงจังกับชีวิต ทำงานหนัก ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่สังคมน้อยมาก เราคิดว่าหากเราแต่งงานกับต้นเราสามารถมีครอบครัวที่อบอุ่นได้ถึงแม้หลายๆ ครั้งเราจะทะเลาะกันเพราะต้นเครียดจากเรื่องข้างนอกแล้วเอามาลงกับเราก็ตาม เราพร้อมแล้วกับการสร้างครอบครัวหลังแต่งงานเราทั้งสองต้องการมีลูกทันทีจึง ปล่อยตามธรรมชาติ
3-4เดือนหลังแต่งงานเรากับต้นมีข่าวดี เราตั้งท้องอ่อนๆลูกที่กำลังจะเกิดเกิดจากความตั้งใจของพ่อกับแม่  ทุกอย่าง ราบรื่นเรามีความสุขมากไม่ได้นึกถึงผลกรรมที่เคยทำไว้เลย

ต้นพาเราไปฝากท้อง ในวันที่ไปฝากคุณหมอถามว่านี่เป็นท้องที่เท่าไหร่ เราคิดในใจว่าเค้าจะนับรวมกับที่เคยท้องมารึป่าวนะจะบอกดีหรือไม่บอกดี ถ้าโกหกหมอไปจะมีผลอะไรต่อลูกในท้องรึป่าวแต่เราก็ตัดสินใจบอกไปว่านี่คือ ท้องแรก ทั้งที่จริงเราเคยท้องมาก่อนหน้านี้ถึง 5 ครั้งแต่เราบอกความจริงต่อหน้าต้นไม่ได้หรอก เค้ายอมรับไม่ได้แน่ๆ

การฝากครรภ์ครั้งแรกก็ผ่านไปหลังจากซักถามประวัติ มีการตรวจเลือดคัดกรองหาโรคติดต่อและพาหะธารัสซีเมียซึ่งอีกหลายอาทิตย์ผล ตรวจจะออกหมอจึงนัดครั้งถัดไป
ต้นบำรุงเราอย่างดีเอาอกเอาใจ ไม่ให้ทำงานหนัก วันๆเรานั่งดูเสื้อผ้าเด็กในเว็บของเล่นของใช้ต่างๆ ซื้อหนังสือตั้งชื่อลูกมาช่วยกันเลือก หาข้อมูลการตั้งครรภ์ที่มีประโยชน์จากเว็บต่างๆ เรารอวันเวลาให้ผ่านไปเร็วๆ อยากเห็นหน้าเค้าแล้วเค้าจะหน้าตาแบบไหน ผู้หญิงหรือผู้ชายแค่คิดก็มีความสุขแล้ว
แต่ความสุขอยู่กับเราไม่นาน สิ่งที่เคยคิดว่าบาปกรรมมันมีจริง มันมีจริงๆนั่นแหละไม่ต้องรอชาติหน้าเลย

ถึงวันนัดครั้งถัดไปหมอจะมีใบแจ้งผลการตรวจเลือด ปรากฎณ์ว่าเราเป็นพาหะธาลัสซีเมียซึ่งอันนี้เราทราบมานานแล้วแต่ที่ไม่รู้ คือต้นเองก็เป็นพาหะธาลัสซีเมียด้วย ธาลัสซีเมียนั้นมีหลายแบบแต่แบบที่ต้นและเราเป็นนั้นถ้ามันส่งผลถึงลูกเรา มันจะทำให้เค้าสร้างเม็ดเลือดแดงเองไม่ได้และมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน เป็นธาลัสซีเมียฮีโมลโกบิลอีซึ่งเปอร์เซ็นที่ลูกจะเป็นนั้นมี 25% หมอเรียกว่าเราเป็นคู่เสี่ยง
ท่ามกลางสามีภรรยาหลายสิบคู่ในวันนั้นไม่มีใครเป็นคู่เสี่ยงเลยนอกจากคู่ของ เรา ทำไมต้องเป็นเรา เรารู้สึกใจไม่ดีถึงแม้มันจะเป็นแค่25%. ถึงแม้โอกาสมากกว่าถึง75%ที่ลูกจะปกติก็ตาม

เราต้องเข้ารับการเจาะชิ้นเนื้อรกเพื่อนำไปตรวจ เป็นการตรวจระดับDNAของเด็กในท้อง จะทำได้ต่อเมื่อครรภ์ได้สามเดือนขึ้นไปเท่านั้น ณ ตอนนั้นเราต้องรอ รออีกเป็นเดือนรอด้วยความกระวนกระวาย ในใจเริ่มคิดว่ามันจะใช่เวรกรรมที่เราทำไว้รึป่าวเรามีลางสังหรณ์ว่าลูกจะ ต้องโชคร้ายได้รับ25%ที่ว่านี้แน่ๆ ต้นนั้นก็ปลอบใจเราเค้าดูมั่นใจมากว่าลูกเราต้องไม่เป็นอะไร

หลังจากรอถึงสามเดือนแล้วเราก็ทำการเจาะชิ้นรกแต่กว่าจะรอผลการตรวจนั้น อีก 1เดือนเต็มๆ ซึ่งเด็กในท้องก็จะประมาณ 4 เดือน ในช่วงเวลาที่รอผลตรวจชิ้นรกเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมากเราไปไหว้พระ บนบานศาลกล่าวสิ่งศักสิทธิขออย่าให้เค้าเป็นอะไร ข้อมูลในเว็บเราหาอ่านทุกวันๆสุขภาพจิตเราแย่มาก เรากลัว กลัวเวรกรรมจะมาตกที่ลูกของเรา

ถึงตรงนี้หลายๆคนคงเดาได้ไม่อยากว่าจะเป็นยังไง ใช่ค่ะผลตรวจที่ออกมาทำให้เราแทบลมทั้งยืน เราร้องไห้ต่อหน้าหมอเสียงดังอย่างไม่อายใคร เด็กในท้องเป็นธาลัสซีเมียซึ่งถ้าเราให้เค้าเกิดมาเค้าจะอยู่ด้วยความทรมาน หมอแนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์

สุดท้ายนี้เราไม่มีอะไรจะเล่าแล้วค่ะเพราะเล่าจากชีวิตจริงไปหมดแล้ว หวังว่าคงมีมีข้อคิดเตือนใจใครหลายๆคนนะคะ อย่าใช้ชีวิตอย่างประมาทเดินทางผิดๆแบบเรา ถ้ายังอยู่ในวัยเรียนก็ตั้งใจเรียนกันไปเถอะค่ะเวลามันผ่านไปเร็ว เรายังรู้สึกเหมือนไม่นานมานี้เรายังเป็นน้องใหม่อยู่ในอ้อมอกพ่อกับแม่เวลา ผ่านไปแปปเดียวเราเดินทางมาครึ่งชีวิตแล้ว ทำอะไรขอให้มีสติยั้งคิด คิดถึงสิ่งที่จะตามมาให้มากๆนะคะ

ส่วนตอนนี้เราได้รับผลกรรมบางส่วนแล้ว ชดใช้ทั้งชาติคงไม่หมด หลังจากยุติการตั้งครรภ์ครั้งสุดท้ายเรา เหมือนคนบ้าเลยค่ะ ร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนอยู่เป็นเดือนๆ อ๋อเราเคยตั้งกระทู้เอาผลตรวจชิ้นแรกมาถามคนใน pantip ตอนปลายปี55 คอมเม้นก็บอกไปในทางเดียวกันค่ะว่าให้ยุติการตั้งครรภ์ ซึ่งเราจะไม่มีลูกกับต้นได้อีกเพราะรับความเสี่ยงกับ 25%นี้ไม่ได้อีกแล้ว มีทางเดียวคือเราต้องแต่งงานใหม่กับคนอื่นที่ไม่เป็นพาหะแต่เราทำไม่ได้หรอก ค่ะ จึงตัดสินใจกันว่าเราขออยู่กันไปแบบนี้ก็ได้ ธุกิจตอนนี้ก็ไปได้ไม่ดีนักเราน้อมรับในผลกรรมทุกอย่างไม่ว่าชาติหรือว่า ชาติไหนๆ

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ สมาชิกหมายเลข 2422177 เจ้าของกระทู้ Pantip.com

แสดงความคิดเห็น