ย้อนรอยคดีสะท้านโลก… “เจ้าหญิงไดอาน่า” การสิ้นพระชนม์ที่ค้างคาใจคนทั้งโลก!!!
ที่กรุงปารีส เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2540 การสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่ายังคงเป็นปริศนาค้างคาใจคนทั้งโลก ผนวกกับข่าวการอภิเษกสมรสใหม่ของ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารอังกฤษ กับ คามิลลา ปาร์กเกอร์ โบว์ลส์
แม้เจ้าหญิงไดอาน่าจะลาโลกไปหลายปีแล้ว แต่กระบวนการยุติธรรมยังคงเดินหน้าต่อ มีการเปิดเผยไดอารีส่วนพระองค์ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า “ชีวิตของเจ้าหญิงกำลังตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง และพระองค์อาจสิ้นพระชนม์ด้วยการถูกปองร้ายโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพื่อเปิดทางสะดวกให้พระสวามีได้อภิเษกสมรสใหม่”
ในขณะนั้นหนังสือพิมพ์อังกฤษหลายฉบับ ตั้งข้อสงสัยความผิดปกติหลายจุด
1. การเปลี่ยนเส้นทางรถยนต์ไปยังอุโมงค์ Pont de L’Alma อย่างไม่มีเหตุผล ทั้งๆ ที่จุดหมายเดิมของเจ้าหญิงกับสหายผู้รู้ใจ “โดดี้ อัล ฟาเยด” ทายาทมหาเศรษฐี เจ้าของห้างสรรพสินค้าแฮร์รอดส์แห่งอังกฤษ คือการเดินทางไปยังอพาร์ตเมนต์ของฝ่ายชาย
2. จู่ๆ วิทยุสื่อสารของตำรวจในกรุงปารีสก็ใช้งานไม่ได้ โดยไม่ทราบสาเหตุ ในขณะที่รถยนต์พระที่นั่งของเจ้าหญิงเดินทางเข้าสู่อุโมงค์ จนเกิดเหตุร้ายและไม่สามารถติดต่อสื่อสารขอความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที
3. กล้องวิดีโอวงจรปิดภายในอุโมงค์เกิดเหตุใช้การไม่ได้ ขึ้นมากะทันหัน!! จนทำให้ไม่มีภาพหลักฐานยืนยันความชัดเจนของอุบัติเหตุนี้
4. มีพยานผู้ร่วมเหตุการณ์บางรายกล่าวว่า เขาได้เสียงดังสนั่น คล้ายเสียงปืน
5. เพราะอะไรรถพยาบาลจึงต้องใช้เวลาถึง 1 ชม.กับ 10 นาที ในการเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ทั้งๆ ที่อยู่ห่างจากโรงพยาบาลเพียง 3 ไมล์เท่านั้น
หลายฝ่ายบอกว่าในจดหมายของเจ้าหญิงไดอาน่าระบุว่า “สมาชิกระดับสูงใน ราชวงศ์อังกฤษ มีแผนการที่จะสังหารเจ้าหญิงไดอาน่า ซึ่งจดหมายดังกล่าวนี้ เป็นหลักฐานชี้นำให้ต้องมีการตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จ จริง ตามคำร้องของ นายไมเคิล เบอร์กีส เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ ที่ระบุว่าตำรวจระดับสูงของอังกฤษ ควรจะดำเนินการสอบสวนข้ออ้างว่า การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุ แต่เป็นการวางแผนอย่างแยบยลต่างหาก
รายละเอียดของจดหมายฉบับดังกล่าวของเจ้าหญิงไดอาน่า ถูกนำมาเปิดเผยเมื่อเดือน มกราคม 2547 เล่าว่า
“จะมีการวางแผนให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยการตัดสายเบรก ซึ่งจดหมายอันสร้างความสั่นสะเทือนไปทั้งโลกฉบับนี้ นายพอล เบอร์เรลล์ อดีตมหาดเล็กของเจ้าหญิงไดอาน่า ยืนยันว่าเจ้าหญิงเขียนไว้ 10 เดือนก่อนที่พระองค์จะประสบอุบัติเหตุ”
ช่วงนั้น ดร.จอห์น เบอร์ตัน อดีตเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเจ้าหญิงไดอาน่า ระบุว่า “พระองค์ไม่ได้ทรงตั้งครรภ์ในขณะสิ้นพระชนม์”
การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส มีผลสรุปออกมาหลังใช้เวลาในการสอบสวนนานกว่า 2 ปี ผลออกมาว่า “อุบัติเหตุของเจ้าหญิงไดอาน่า และ โดดี้ อัล ฟาเยดนั้น เกิดจากความผิดพลาดของ นายอองรี ปอล คนขับรถ เนื่องจากอยู่ในสภาพเมาสุราและฤทธิ์ยา และขับด้วยความเร็วสูงเกินกำหนด”
แต่สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงลอนดอน บอกโดยอ้างจากว่า หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ซันเดย์ ไทมส์ ของอังกฤษว่า
“เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดย ลอร์ด จอห์น สตีเวนส์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลอนดอน ได้เข้าพบเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ที่ พระตำหนักคลาเรนซ์ เป็นเวลานานหลายชั่วโมง หลังจากมีข้อสันนิษฐานว่าเจ้าหญิงไดอาน่าอาจตกเป็นเหยื่อในแผนลอบสังหาร
ขณะ เดียวกันโฆษกส่วนพระองค์ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ แถลงยืนยันว่า อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลอนดอนได้เข้าพบเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์จริง เพื่อสืบสวนกรณีการเสียชีวิตของเจ้าหญิงไดอาน่า แต่ทางโฆษกไม่ขอแสดงความเห็นใด ๆ เพราะเกรงว่าอาจจะเป็นการชี้นำให้เกิดการเข้าใจผิดได้”…
ประวัติเจ้าหญิงไดอาน่า
เจ้าหญิงไดอาน่า พระนามเดิม เลดี้ ไดอาน่า สเปน เซอร์ ทรงถือกำเนิดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2504 ในตระกูลสเปนเซอร์ของท่านเอิร์ล สเปนเซอร์ที่ 8 ผู้บิดา เป็นตระกูลที่สืบทอดเชื้อสายจากขุนนางเก่าแก่ตั้งแต่ปี 2308 เมื่ออายุได้ 20 ปี ทรงเป็นหญิงสาว ขี้อายจากครอบครัวสามัญชนที่มีความเฉลียวฉลาด ร่าเริง สนุกสนาน และนุ่มนวลอ่อนหวานชวนหลงใหล ก็เข้าสู่พิธีอภิเษกสมรส กับ เจ้าชายฟ้าชาร์ลส์ ท่ามกลางพิธีหลวงอันหรูหรา ติดตาตรึงใจ ผู้คนทั่วโลก
ภายใต้ร่มเงาของราชวงศ์วินด์เซอร์ แม้เจ้าหญิงไดอาน่าทรงให้กำเนิดพระโอรส 2 พระองค์คือ เจ้าชายวิลเลียม อาร์เธอร์ ฟิลิป หลุยส์ หรือที่รู้จักในพระนาม “วิลล์” และ เจ้าชายแฮร์รี่ ชาร์ลส์ อัลเบิร์ต เดวิด หรือ “แฮร์รี่” แต่ชีวิตท่านไม่เหมือนดั่งเทพนิยาย เจ้าหญิงไดอาน่าต้องพบกับความทุกข์ ความเปล่าเปลี่ยวและ หัวใจแตกสลาย ก่อนประกาศหย่าร้างอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุผลที่ว่า ความรักกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ไม่ใช่เรื่องจริงตั้งแต่เริ่มแรก
ช่วงท้ายของชีวิต พระองค์ทรงพบรักใหม่กับ โดดี้ อัล ฟาเยด ทายาทมหาเศรษฐี เจ้าของห้างสรรพสินค้าแฮร์รอดส์ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปถึงราชวงศ์อังกฤษ จึงนำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจ้าหญิงอาจถูกลอบปลงพระชนม์ เพื่อปิดเรื่องราวนี้ลงตลอดกาล
ขอขอบคุณข้อมูลจาก artsmen
แสดงความคิดเห็น