อานิ โลแซง ดอลมา
จากดาราสาวสวยชื่อดัง สู่ ชีวิตภิกษุณีที่แสนสงบ
ยุคสมัยนี้คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า เป็นยุคแห่ง ความหล่อความสวย ยิ่งถ้าหล่อสวยใกล้เคียงกับดารานางแบบด้วยแล้ว จะยิ่งได้รับความนิยมชมชอบจากคนรอบข้างมากยิ่งขึ้น จึงทำให้บรรดาร้านขายเครื่องสำอางค์ หรือเหล่าคลีนิคศัลยกรรมผุดขึ้นมาใหม่มากมายราวกับดอกเห็ด และที่น่าแปลกใจคือ แทบทุกร้านล้วนมียอดการใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน
ในขณะที่เรามัวแต่หันมาสนใจความงดงามของใบหน้า และพะวงกับกระชับสัดส่วนอยู่นั้น กลับมีดารานางแบบของประเทศเนปาลท่านหนึ่ง ที่ละทิ้งความงาม(ภายนอก) ทั้งชื่อเสียง และเงินตราทุกอย่างที่มี หันกลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการบวชเป็น “ภิกษุณี”
ภิกษุณีรูปนี้มีนามว่า อานิ โลแซง ดอลมา (Ani Losang Dolma) หรือนามเดิมคือ โคฮีนัว สิง (Kohinoor Singh) อดีตดาราและนางแบบสาวชั้นแนวหน้าของประเทศเนปาล ซึ่งโลดแล้นอยู่ในวงการบันเทิงมานานนับสิบปี ในขณะที่ชีวิตในวงการบันเทิงกำลังดังถึงขีดสุดอยู่นั้น โคฮีนิวกลับเลือกที่จะหยุดชีวิตทางโลกทั้งหมด ด้วยการบวชเป็นภิกษุณี ด้วยเหตุผลที่ว่า การเข้าบวชในพุทธศาสนาเหมาะกับวิถีชีวิตของท่านมากกว่าชีวิตทางโลก เพราะเป็นศาสนาที่เรียบง่าย และเป็นความจริง
โดยภิกษุณีกล่าวถึงอีกเหตุผลหนึ่งที่ตัดสินใจบวชในพุทธศาสนาว่า “ฉันรู้สึกชื่นชมการเป็นภิกษุณีมาตั้งแต่เด็กแล้ว เวลาที่พบเหล่าภิกษุณี ท่านมักจะดูมีความสุข แต่งกายแบบเดิมเสมอ ดูเรียบง่าย ปราศจากสิ่งเหนี่ยวให้ใจตกต่ำ ต่างจากคนธรรมดาที่มักจะรักษาแต่ภาพลักษณ์ของตัวเอง มีกิเลสความอยากได้อยากมี จึงทำให้ชีวิตมีความสุขน้อยลง”
ในสมัยที่ยังเป็นดารา ท่านมักรู้สึกว่างานที่ทำ ขัดต่อความเป็นตัวของตัวเองเสมอ อาจเป็นเพราะงานในวงการบันเทิง มักจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องร่วมงานปาร์ตี้ ดื่มสังสรรค์ และมีเหล่าแฟนคลับที่โทรมาด้วยความหึงหวงอีกบ่อยครั้ง จึงทำให้รู้สึกว่างานเป็นสิ่งที่เป็นภาระอันหนักหนา แต่เมื่อท่านละทุกสิ่ง แล้วบวชเป็นภิกษุณีกลับพบแต่ความเงียบสงบ เรียบง่าย
“ในช่วงแรกที่บวชไม่มีใครจำได้ วันหนึ่งขณะที่กำลังเดินบิณฑบาตร มีกลุ่มเด็กผู้ชายเล่นฟุตบอลอยู่ระหว่างทาง แล้วฟุตบอลเกิดพลัดมาโดนศรีษะ เด็กผู้ชายกลุ่มนั้นก็รีบเข้ามากราบขอโทษ และเข้าใจผิดว่าฉันเป็นเณรผู้ชายด้วย” ภิกษุณีกล่าวด้วยอารมณ์ขัน
แม้การบวชของท่านจะมีหลายคนอนุโมทนา แต่อีกหลายๆ คนกลับวิพากวิจารณ์ว่า เป็นการบวชเพียงเพื่อต้องการสร้างข่าวให้ตัวเองดังเพิ่มขึ้นมากกว่า โดยภิกษุณีกลับตอบด้วยท่าทีเปี่ยมเมตตาว่า “…มนุษย์เราต่างเกิดมาโดยไม่มีทางรู้ว่า โตขึ้นมาจะเป็นอะไร แต่เราสามารถเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว จนกลายเป็นตัวเราในอนาคตได้เหมือนกันทุกคน…เป็นเรื่องง่าย ที่คนเราจะพบเจอกับความสุข และความทุกข์ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่แสนสั้น… แต่คนที่สามารถอยู่ได้ทั้งความสุขและความทุกข์โดยไม่สะทกสะท้านต่างหาก คือผู้ที่ค้นพบความสุขอันแท้จริง”
โดยภิกษุณีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “จะไม่กลับไปเดินบนเส้นทางนักแสดงอีกตลอดไป เพราะการบวชเป็นภิกษุณีคือสิ่งที่เป็นตัวเองมาตลอดทั้งชีวิต”
ความกล้าหาญที่จะบวชของ ภิกษุณี อานิ โลแซง ดอลมา เป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่า ความเข้มแข็งของผู้ที่ฝักใฝ่จะทำความดี แม้จะต้องละทิ้งวัตถุทุกสิ่ง หรืออาจถูกสังคมเข้าใจผิดสักเพียงไร แต่ถ้าหนักแน่นในสิ่งที่ทำ ผลที่ได้ตามมาคือ การพบหนทางสู่แสงสว่าง และความสุขที่แท้อย่างแน่นอน
ขอขอบคุณ เครดิตรูป cybernepal
แสดงความคิดเห็น