เด็กป.2 คนนี้… หนีเรียนไป “ป้อนข้าวพ่อแม่” แล้ว “เลี้ยงน้องชายวัยกระเตาะ” ระหว่าง “เรียนหนังสือ”!!!

โพสโดย : admin | วันที่ : 4 August 2015
หมวดหมู่ : สร้างแรงบันดาลใจ, เรื่องน่าอ่าน

เด็กป.2 คนนี้… หนีเรียนไป “ป้อนข้าวพ่อแม่” แล้ว “เลี้ยงน้องชายวัยกระเตาะ” ระหว่าง “เรียนหนังสือ”!!!

1

กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ เมื่อน้องเจมส์ เด็กชั้นป.2 โรงเรียนวัดหนองกอไผ่ จังหวัดพิจิตร รับภาระเกิดเด็กในการดูแลพ่อแม่ที่ล้มป่วยด้วยโรคร้าย พร้อมต้องดูแลน้องชายวัยขวบกว่าทุกวัน อย่างไม่ย่อท้อ และมีรอยยิ้มกำลังใจดี

น้องเจมส์ ต้องขี่จักรยานเก่าๆแอบหนีจากโรงเรียนกลับบ้าน เพื่อไปป้อนข้าวป้อนน้ำให้พ่อแม่ และดูแลน้องชายที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เนื่องจากครอบครัวของน้องเจมส์มีฐานะยากจน อาศัยกระท่อมกลางนาซึ่งมีลักษณะเป็นเพียงสังกะสีพอหลบแดด-หลบฝนได้เท่านั้น ทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก

2

3

ต่อมาเรื่องของน้องเจมส์ได้ถูกเผยแพร่จนกลายเป็นข่าวดัง มีประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถือเหล่าคนดังรู้สึกสงสาร และยกย่องว่าน้องเจมส์เป็นเด็กยอดกตัญญู พร้อมให้ความช่วยเหลือมากมาย ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ผู้สื่อข่าว

น้องเจมส์ หรือด.ช.ธีรพัฒน์ ปัจจุบันอายุ 9 ปี ได้ถูกรับเลือกจาก สภาสังคมสงเคราะห์ แห่งประเทศไทยฯ ให้รับรางวัลลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2558

นายประกอบ บรรณาธรรม ผอ.โรงเรียนวัดหนองกอไผ่ กล่าวว่า “ปัจจุบัน น้องเจมส์มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หลังจากคุณพ่อของน้องเจมส์เสียชีวิตไป น้องเจมส์และได้ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ที่ใกล้โรงเรียนพร้อมแม่กับน้อง ทำให้มีความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น ส่วนน้องชายของน้องเจมส์ ปัจจุบันอายุ 2 ขวบ ได้เริ่มเข้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใกล้บ้าน นอกจากนี้น้องเจมส์ยังได้รับการอุปการะจากดารานักแสดงสาว ‘พลอย-พรพิชญ์ชญา จินดาโชติ’ ให้ความดูแลและส่งเสียเล่าเรียนจนจบปริญญาตรี ซึ่งเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดของน้องเจมส์ สาวพลอยก็ได้ส่งสิ่งของและอุปกรณ์การเรียนทั้งยังวีดีโอคอลมาอวยพรกับน้องเจมส์ด้วย”

4

เด็กดี ก็สมควรได้รับคำชม และได้รับการดูแลจากสังคม เพื่อเป็นตัวอย่างให้สังคมมองเห็นความดี เช่นเดียวกับน้องเจมส์ เด็กน้อยหัวใจโตคนนี้ ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี ไม่ว่าจะมีสักกี่บททดสอบที่เลวร้าย ก็เชื่อว่า เขาจะฟันฝ่าไปได้อีกครั้งแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก เดลินิวส์ออนไลน์ 

แสดงความคิดเห็น