สะพานหฤโหด… ตำนาน “ฆ่าตัวตายของสุนัข” ที่มักกระโดดลงไปตาย ที่สะพานแห่งนี้!!!

โพสโดย : admin | วันที่ : 8 August 2015
หมวดหมู่ : ย้อนรอยคดีสะเทือนขวัญ, เรื่องน่าอ่าน

สะพานหฤโหด… ตำนาน “ฆ่าตัวตายของสุนัข” ที่มักกระโดดลงไปตาย ที่สะพานแห่งนี้!!!

3

โดยปกติแล้ว สุนัข หรือสัตว์ส่วนใหญ่ ไม่มีสัญชาติญาณในการฆ่าตัวตาย ยกเว้นเพียง “มนุษย์” เท่านั้นที่สนใจจะฆ่าตัวตาย แต่ตำนานของสะพานนี้กลับตรงกันข้าม เพราะสะพานที่ประเทศสก็อตแลนด์แห่งนี้ กลับทำให้ความเชื่อทางวิทยาศาสตร์นี้ กลับตรงกันข้าม!

Overtoun Bridge หรือ สะพานสุสานสุนัข เป็นสะพานโค้งสร้างในปี 1859 ในมิลตัน, ดัมบาร์ดัน ประเทศสก็อตแลนด์ ที่ได้ฉายานี้เพราะอดีตที่ผ่านมามีสุนัขหลายตัวไปฆ่าตัวตายโดยการโดดจากสะพานแห่งนี้ อย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่การศึกษาพบว่าสุนัขในแถบนั้นนั้นเริ่มมีพฤติกรรมฆ่าตัวตายโดยโดดจากสะพานเริ่มในช่วง 1950 หรือ 1960 เฉลี่ยหนึ่งตัวต่อหนึ่งเดือน(อาจสิบตัวต่อหนึ่งเดือน) โดยจุดที่กระโดดนั้นนำไปสู่ความสูงกว่าสิบห้าฟุตทำให้สุนัขตายทันที ความน่าฉงนเพิ่มขึ้นมา แม้สุนัขบางส่วนรอดไปก็จริง แต่มันก็กลับมากระโดดฆ่าตัวตายอีก

1

ที่น่าสนใจคือ สุนัขที่ฆ่าตัวตายส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์ที่จมูกยาว ทำให้หลายคนเชื่อว่าสะพานนี้มีผีสิง และอาจเป็นคำสาปของเด็กคนหนึ่งที่ถูกโยนตกสะพานในปี 1994 (และคนโยนก็มีพฤติกรรมอยากฆ่าตัวตายด้วย) นอกจากนี้ยังมีคนเชื่อว่าสะพานแห่งนี้เป็นที่กั้นระหว่างโลกคนเป็นกับคนตายซึ่งเป็นสายตรงหากจะข้ามไป ซึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้ได้รับความสนใจจากต่างประเทศ สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ได้ส่งคนเข้ามาตรวจสอบ ก็พบว่าบริเวณนั้นเป็นผู้อยู่อาศัยของหนูและตัวมิงเยอะ จากการตรวจสอบพบว่าพวกมันมีกลิ่นที่สุนัขไม่ชอบ และนี้คือสาเหตุที่ทำให้สุนัขมีความคิดอยากฆ่าตัวตายหรือไม่นั้นก็ไม่สามารถตรวจสอบได้

2

ในขณะเดียวกัน ทางรายการ Discovery เคยพิสูจน์ว่า ทำไมสุนัขโดดลงมา พบว่า ความสูงของสะพานมันเป็นระยะพอดีกับแนวลมที่พัดมาจากภูเขาและจุดที่สร้างสะพานเป็นตำแหน่งที่ลมหวนพอดี นกจะหลบลม จึงเป็นตำแหน่งร่องราวสะพานพอดี ทำให้สุนัขเห็นนก สัญชาติญาณของสุนัขเมื่อเห็นนกมันจะวิ่งไล่ พอกระโดดคว้านกก็เลยตกลงไปพอดี

หลายคนเชื่อตามหลักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น แต่หลายคนกลับมองว่าสะพานแห่งนี้เป็นตำนาน โดยเฉพาะชาวบ้านในระแวกนั้นที่ยังคงเชื่อมั่นในตำนานของสะพานหฤโหด

ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก เพจตำนาน คดีดัง 

แสดงความคิดเห็น