คดีพลิก… “เสี่ย-หนุ่ม”แทงกัน 2 ศพ “สาวสวย” ยอมรับว่าลวงมาฆ่า!!!

โพสโดย : admin | วันที่ : 18 September 2015
หมวดหมู่ : เรื่องน่าอ่าน

คดีพลิก… “เสี่ย-หนุ่ม”แทงกัน 2 ศพ “สาวสวย” ยอมรับว่าลวงมาฆ่า!!!

1

เมื่อไม่นานนี้ ทางสน.ลาดพร้าว รับแจ้งเหตุแทงกันตายภายในห้องเลขที่ 502 ชั้น 5 อาคารบี เอเชีย รีสอร์ท ซอยแจ่มจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพบศพนายกฤษฎา ศรีนรินทรานนท์ อายุ 43 ปี อดีตผู้บริหารสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านรัชดาฯ นอนคว่ำหน้าเปลือยกาย โดยมีร่างของนายธัชกร เหลืองอุทัย อายุ 28 ปี นอนทับอยู่ ตามร่างกายของทั้งคู่มีบาดแผลฉกรรจ์ทั่วตัว เลือดไหลนองเต็มพื้นและมีดพกสั้น 2 เล่ม ตกอยู่ในห้อง นอกจากนี้ ยังพบน.ส.ณัฏฐณิชา หรือเอ๊ะ สวัสดิผล อายุ 23 ปี ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา

จากการสอบสวนพบว่า นายกฤษฎามาเปิดห้องพักพร้อมกับน.ส.ณัฏฐณิชา โดยขับรถยนต์เลกซัส สีดำ หมายเลขทะเบียน ฌง 294 กทม. มาไว้ที่ลานจอด ก่อนจะพากันขึ้นห้องพัก ประมาณ 1 ช.ม.ต่อมาก็พบนายธัชกร เหลืองอุทัย อายุ 28 ปี ใช้เสื้อสีขาวปิดคลุมอำพรางใบหน้า ใส่เสื้อยืดสีขาว ในมือถือมีดพกสั้น แอบเดินเข้ามาในตัวอาคารทางประตูบันไดหนีไฟ แล้วเข้าไปในห้องกระทั่งเกิดเหตุสลด ผ่านไป 15 นาที น.ส.ณัฏฐณิชาเดินออกมาจากห้องพักก่อนตำรวจมาที่เกิดเหตุ ซึ่งพบว่าสร้อยคอทองคำหนัก 9 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 3 องค์ หนึ่งในนั้นคือพระกริ่งหลวงปู่สรวงมูลค่า 2 แสนบาท และสร้อยข้อมือทองคำหนัก 5 บาท ของนายกฤษฎาได้หายไป แต่รถยนต์ยังอยู่ ส่วนน.ส.ณัฏฐณิชาพบว่าติดหนี้นายกฤษฎาอยู่ 2 หมื่นบาท เบื้องต้นได้ตั้งไว้ 2 ประเด็นคือ เรื่องชู้สาว และความแค้นส่วนตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ผกก.สน.ลาดพร้าว เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่สอบสวนก็พบพิรุธ ของน.ส.ณัฏฐณิชา หรือเอ๊ะ สวัสดิผล อายุ 23 ปี เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมที่สน.ลาดพร้าว เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่ารู้จักกับนายธัชกรด้วย แต่ไม่ได้นัดแนะให้มาในคืนที่เกิดเหตุ ซึ่งน.ส.ณัฏฐณิชายังคงให้การวกวนในหลายประเด็น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการสอบปากคำอย่างละเอียด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า หลังเกิดเหตุน.ส.ณัฏฐณิชาได้เดินเข้าออกห้องที่เกิดเหตุด้วยเท้าเปล่า ด้วยท่าทางปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วหายไป โดยที่ไม่ทราบว่าได้เอาอะไรติดตัวไปด้วยหรือไม่ ก่อนจะกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง แล้วออกจากห้องไปตามเจ้าหน้าที่ รปภ.ของอาคารมาตรวจสอบ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำน้องชายของนายธัชกร เหลืองอุทัย อายุ 28 ปี ให้การว่า พี่ชายของตนพักอาศัยอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และโดยสารเครื่องบินขึ้นมากทม.ในวันเกิดเหตุ โดยให้เหตุผลกับทางบ้านว่ามีธุระด่วน หลังจากเกิดเหตุตนได้เข้าไปในเฟซบุ๊กของพี่ชายพบว่าพี่ชายกับน.ส.ณัฏฐณิชา เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก จึงคาดว่าทั้งสองอาจจะรู้จักกัน

นอกจากนี้โทรศัพท์มือถือไอโฟนของพี่ชายได้หายไป และจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรม ทราบว่านายธัชกรขับรถยนต์สีขาวไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น มาที่โรงแรมในคืนเกิดเหตุ แต่หลังจากนั้นรถคันดังกล่าวได้หายไป

ล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.ณัฏฐณิชา ยอมสารภาพแล้วว่าเป็นคนวางแผนทั้งหมดขึ้นเอง แต่ไม่ได้มีเจตนาจะสังหารเสี่ยกฤษฎา โดยเรื่องเริ่มจากไม่พอใจที่เสี่ยกฤษฎาถ่ายคลิปตอนที่ตนเองเสพยาไว้ จากนั้นก็นำคลิปมาแบล๊กเมล์ ทำให้เกิดความโกรธแค้นเป็นอย่างมาก จึงวางแผนให้นายธัชกรซึ่งรู้จักกันทางเฟซบุ๊คบินมาจากหาดใหญ่ โดยซื้อตั๋วเครื่องบินให้

โดยที่น.ส.ณัฏฐณิชาได้นัดเสี่ยกฤษฎาเปิดห้องพักที่รีสอร์ตดังกล่าว จากนั้นให้นายธัชกรปลอมเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ทำทีมาขอตรวจสอบห้องพัก เพื่อจะหาข้ออ้างยึดมือถือของเสี่ยกฤษฎา ซึ่งในนั้นมีคลิปของน.ส.ณัฏฐณิชา แต่เสี่ยกฤษฎาไม่หลงกล เกิดต่อสู้กับนายธัชกรจนเสียชีวิตทั้งคู่

ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีน.ส.ณัฏฐณิชา ในข้อหา “ใช้ จ้างวาน ยุยง ด้วยวิธีการใดๆ ให้ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” และควบคุมตัวไว้เพื่อ สอบปากคำเพิ่มเติม

ผู้หญิงสวยใช่ว่าจะน่ารัก แบ๊วๆ เสมอไป อาจมีเหตุจูงใจให้ฆ่าได้ไม่ต่างจากผู้ชายอกสามศอก อยู่ที่ว่า คนๆ นั้นจะมีเรื่องเกี่ยวพันอะไรที่ทำให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจจนต้องฆ่าแกงกันขนาดนี้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์ 

แสดงความคิดเห็น