“น้องไอซ์” เจ้าหญิงนิทรา เพราะผ่าคลอดลูก วอนผู้มีจิตเมตตาช่วยเหลือ
น่าเศร้า เมื่อ “น้องไอซ์” เจ้าหญิงนิทรา ผ่าคลอดลูกขาดอากาศหายใจ วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ “น้องไอซ์” ที่ต้องกลายเป็น เจ้าหญิงนิทรา ช่วยตัวเองไม่ได้ หลังขาดอากาศหายใจ 5 นาที ระหว่างผ่าคลอดลูก ครอบครัวยากจนลำบาก
ภายในห้องเช่าแบริ่ง 22 – 26 ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยแบริ่ง 22 ต.สำโรงเหนือ เนื่องจากได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ที่พักอาศัยอยู่ภายในอาคารดังกล่าวว่า มีครอบครัวยากจนเดือดร้อน เนื่องจากบุตรสาววัย 24 ปี ล้มป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จากการไปผ่าคลอดลูกที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และเกิดการผิดพลาดระหว่างผ่าคลอด คนไข้ขาดอากาศหายใจไปนานประมาณ 5 นาที ต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ส่วนลูกที่ผ่าคลอดออกมาปลอดภัยเป็นปกติ
ที่ห้องเช่าดังกล่าวพบ นางมณีรุ่ง นุ่มเจริญ อายุ 47 ปี และนายพิทักษ์ ธีระบุตร อายุ 51 ปี พ่อและแม่ของ นางสาววราภรณ์ ธีระบุตร อายุ 24 ปี หรือ น้องไอซ์ กำลังช่วยกันใช้เครื่องดูดเสมหะ ออกจากลำคอของลูกสาว ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย สภาพแขนขาลีบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดย นางมณีรุ่ง เล่าว่า ก่อนหน้านี้น้องไอซ์ได้อยู่กินกับสามีจนมีลูกด้วยกัน 2 คน คนแรกเป็นลูกสาว ส่วนคนที่ 2 เป็นผู้ชาย แต่ในระหว่างที่ทำการผ่าตัดเพื่อคลอดลูกคนที่ 2 แพทย์บอกว่าน้องไอซ์ได้ขาดอากาศหายใจไปประมาณ 5 นาที ตนเห็นสภาพของลูกสาวตนแล้ว คิดว่าไม่รอดแน่ หลังจากที่เป็นอย่างนี้
สามีของน้องไอซ์ก็หนีไป แต่อย่างไรตนก็ไม่ยอมแพ้ จึงขอแพทย์พาลูกกลับมาดูแลต่อที่บ้าน ทั้งๆ ที่น้องไอซ์ยังไม่รู้สึกตัว มาถึงบ้านตนก็ดูแลลูกสาวอย่างดี คอยเรียกน้องไอซ์ให้ตื่นทุกวัน จนกระทั้งลูกสาวรู้สึกตัวขึ้นมา แต่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ตนกับสามีจึงต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ทุกวันนี้ตนต้องอาศัยไปขอเงินและข้าวสารจากบ้านน้องสาวมาใช้จ่าย บางครั้งก็ยืมเงินคนข้างห้องยามที่ยาแก้แผลกดทับหมด ส่วนน้องชายของน้องไอซ์ นายอชิตพล ธีระบุตร หรือ ฮอต เป็นนักกีฬาสนุกเกอร์ ฉายา ฮอต เคเคเจมส์ ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน ตอนอยู่ชั้น ม.1 เพื่อตระเวนแข่งสนุกเกอร์หารายได้มาจุนเจือครอบครัว
จึงอยากจะข้อความเมตตาจากผู้มีจิตเมตตาต้องการบริจาคช่วยเหลือครอบครัวน้องไอซ์ ติดต่อได้ที่เบอร์นางมณีรุ่ง 085-5547288 หรือ 095-6688121 นายพิทักษ์ หรือบริจาคช่วยเหลือได้ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาซีคอนสแควร์982-0-733170 บัญชีออมทรัพย์ นายอชิตพล ธีระบุตร.. “
ขอขอบคุณข้อมูล และเครดิตภาพจาก เดลินิวส์ออนไลน์
แสดงความคิดเห็น